Tuesday, September 25, 2012

สนามหลวง ในอดีต

สนามหลวง ในอดีต สมัยไร้ถุงพลาสติก
สนามหลวง ปี 1970 เป็นแผงขายเสื้อและมีร้านก๋วยเตี๋ยวกับร้านขายข้าวราดหมูแดง หมูกรอบอยู่ข้างๆชอบตู้ไม้ที่ขายของในยุคนั้นจัง รู้สึกคลาสสิคดี มีกรุกระจกสีที่ด้านบนด้วย
ตอนที่เรียนช่างกลปีหนึ่ง ก็เดินขายถุงกระดาษโชคดี อยู่แถวๆถนนที่เขาเดินนี่แหละกับเพื่อนสนุกดีครับ ดูกลอับดุลจนเบื่อ บางทีก็งูเห่ากัดกับพังพอน แต่เท่าที่เห็นไม่ค่อยปล่อย หากจะปล่อยก็ไม่นาน จะขายยาเสียมากกว่า เขาเก่งครับพูดเป็นต่อยหอย สารพัดจะยกนั่น ยกนี่มาสาธยายให้คนเชื่อยืนนั่งฟังกันนิ่งเลยละ เดี๋ยวก็ขายส่วนใหญ่เป็นรากอะไก็ไม่นู้แต่แพงเป็นบ้าเลยเมื่อ เที่ยบกับอย่างอื่นเช่นยาหม่อง สรรพคุณเหรอยกเมฆทั้งนั้น มีของพวกทหารอเมริกันจากนครราชสีมามาขายด้วย จะอยูกลางสนามหลวงใกล้ๆส้วมฉื่ที่ทำเป็นไม้กั้น ผมเจอ ประภาษ จารุเสถียรบ่อยกับแว่นตาดำล้อมรอบด้วยทหาร ส่วนมากเดินซื้อของกิน ข้าวหมูแดงหมูกรอบอร่อยครบเครื่อง แต่ผมว่าที่รอบๆศาลหลักเมือง อร่อยกว่านะอาจจะเป็นที่ผมชอบก็ใด้ ข้าวหมูแดงจะมีไข่และกุนเชียง น้ำราดนี่สูตรเด็ดของใครของมันเขาแข่กันตรงน้ำราดกับต้นหอมแช่น้ำในแก้วทุกโต้ ส่วนน้ำฟรีครับ ของกินสนามหลวงอร่อยหลายอย่างหลากหลายมาก คนมาสนามหลวงจะซื้อติดมือไปกินบ้านกันส่วนใหญ่ สมัยนั้นไม่มีถุงพลาสติกหือเชือกฟาง หรอกครับส่วนใหญ่ใช้ถุงกระดาษหนังสือพิมพิ์หรือถุงโชคดีหรือไม่ก็ถุงกระดาษสีน้ำตาล จะซื้อน้ำใช้แก้วตูดจีบและใบตองเชือกกล้วยเป็นเส้นแห้งๆ หมากฮอส หมากรุกมีเป็นจุดให้ท้าทาย 18 มงกุฏยัดเยียดพระรอดให้เราทำบุญก็เยอะโคตรตื้อเลยละ เรราเพลอจะหยดพระใส่กระเป๋าเสื้อเมื่อยื่นคืนไม่รับแต่จะเดินตื้อตามตลอดจนใด้เงิน พระก็ซื้อเป็กิโลละมั้งแถวนั้น เสน่ห์สนามหลวงนั้นชุมชนธรรมชาติที่จับใจไม่ลืมในคนรุ่นผมที่ใด้สัมพัส แต่เสียอย่างคือความสอาด และรถตืดที่หน้าปั้มสามทหาร สนามหลวงสถานที่นอนเมื่อ 14 ตุลาและที่วิ่งหางจุกตูดเมื่อ 6 ตุลา ยามเด็กเล็กพ่อพาไปชักว่า กินปลาหมึกย่างน้ำจิ้มถัวยามเย็น ที่นั่นคือที่พักผ่อนของประชาชนแต่เดี๋ยวนี้นกยังต้องมีสิทธิ์แค่ชายตามอง ขอขอบคุณ หนานเมือง สล่าง่าวบ้านนอก จาก internetfreedom